แนะนำเกี่ยวกับ Jazzy Frank

เรื่องของดนตรีเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอไม่ว่าจะเป็นดนตรีแนวใดก็ตามหากว่ามีความพยายามฝึกเล่นจนเก่งพร้อมทั้งมีความสามารถแล้วก็จะกลายเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จในแนวทางเพลงนั้นๆ ได้ไม่ยาก ดนตรีแจ๊สสำหรับหลายคนอาจมองว่านี่เป็นสิ่งที่ค่อนข้างไกลตัวแต่อันที่จริงมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ยากเลยหากว่ามีความตั้งใจจะเล่นอย่างจริงจัง เหมือนกับคนๆ หนึ่งที่มีความพยายามอย่างมุมานะจนในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในการเล่นดนตรีแนวแจ๊ส ชื่อของเขาคือ Jazzy Frank

รู้จักกับ Jazzy Frank

Jazzy Frank เป็นนักดนตรีแจ๊สมือต้นๆ ของเมืองไทยในเวลานี้ที่ต้องยอมรับว่าค่อนข้างมีชื่อเสียงไปทั่วโลก เขาได้เริ่มต้นเล่นดนตรีเป็นครั้งแรกเมื่อตอนอายุได้ 8 ขวบ เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่เขามีโอกาสได้สัมผัสก็คือเปียโน คนที่สอนเขาก็ไม่ใช่คนอื่นไกลนั่นคือพ่อของเขาเอง ในอดีตพ่อของเขาเคยเป็นอาจารย์ให้กับโรงเรียนดนตรีมาก่อนทำให้การเล่นดนตรีจึงเป็นสิ่งที่ผูกพันตัวเขามาตั้งแต่เด็ก นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาหันมาสนใจเรื่องของดนตรีอย่างเป็นจริงเป็นจัง ต่อมาเขาก็ได้ให้ความสนใจกับเครื่องดนตรีอย่างเมโลเดี้ยน และ ทรัมเป็ต เพื่อที่จะได้เข้าไปเล่นให้กับวงของโรงเรียนกระทั่งเขาอายุได้ 12 ขวบ จึงได้มีโอกาสเล่นกีตาร์เป็นครั้งแรกจนในที่สุดก็ค้นพบว่านี่คือเครื่องดนตรีที่เขาชอบพร้อมทั้งมีความสามารถมากที่สุด

ชีวิตของเขาดำเนินมาจนช่วงมัธยมปลายเขาก็ได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาต่อเกี่ยวกับดนตรีโดยตรงที่ Oneida Baptist Institute รัฐ Kentucky ประเทศสหรัฐฯ เขาได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของทฤษฎีดนตรีพร้อมทั้งได้มีโอกาสเป็นนักดนตรีของงานภายในโรงเรียนจากนั้นเขาก็ได้เข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ Musician Institute เมือง Los Angeles สาขา Guitar (GIT) ตลอดช่วงระยะเวลาที่เขาได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของดนตรีเขากลับมีความสนใจดนตรีแนวร็อกมาโดยตลอดจนครั้งหนึ่งเขาได้มีโอกาสฟังเพลง Blue in Green ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินแจ๊สชื่อดังอย่าง Miles Davis ที่เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงแจ๊สที่ฟังง่ายรวมถึงมีความไพเราะเป็นอย่างมากนี่จึงทำให้เขาเริ่มต้นหลงรักเพลงแจ๊สขึ้นมาพร้อมทั้งเริ่มต้นที่จะแกะเพลงแนวนี้เพื่อใช้เล่นมากยิ่งขึ้นด้วย

ช่วงระหว่างเรียนเขาก็ได้มีโอกาสไปเล่นตามร้านอาหาร 3-4 คืนต่อสัปดาห์ซึ่งต้องถือว่าเป็นประสบการณ์อันสุดยอดที่สุดของเขาอันหาไม่ได้จากการเรียนในห้องเรียนก่อนเรียนจบเขาก็ได้มีโอกาสเดินทางไปแสดงดนตรีในหลายๆ รัฐ รวมถึงช่วงฝึกงานก็ได้มีโอกาสฝึกที่ Moonlight Studio กับ 2 นักดนตรีแจ๊สอย่าง David Vasquez และ Jeff Lewis นั่นทำให้เขาสั่งสมประสบการณ์จนประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้